ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก

ข้าวเป็นอาหารที่สำคัญชนิดหนึ่งของโลก

โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่นิยมรับประทานข้าวเป็นอาหารหลักมากกว่าในภูมิภาคอื่นๆ การผลิต การบริโภค และการค้าข้าวส่วนใหญ่จึงกระจุกตัวอยู่ในเอเชีย แต่ข้าวที่ผลิตได้ก็มักจะเป็นการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศ ทำให้มีข้าวเพียงประมาณร้อยละ 6 ของปริมาณการผลิตเท่านั้นที่เข้าสู่ตลาดการค้าข้าวระหว่างประเทศ โดยประเทศที่มีบทบาทมากที่สุดในการส่งออกข้าว คือประเทศไทย รองลงมาคือ อินเดีย  เวียดนาม และจีน ตามลำดับ โดยไทยมีการส่งออกข้าวปีละประมาณ 7 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของการส่งออกข้าวทั้งหมดทั่วโลก

ข้าวไทย

เป็นสินค้าที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้ผลิตและส่งออกข้าวหอมมะลิคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี และถึงแม้ในระยะหลังข้าวไทยจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านปริมาณการผลิตและราคาของประเทศคู่แข่งสำคัญ แต่ข้าวไทยก็ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งหากพิจารณาตลาดส่งออกข้าวไทยรายภูมิภาคจะพบว่า ตลาดสำคัญยังคงอยู่ในทวีปเอเชีย ทั้งเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ รวมถึงตะวันออกกลางและแอฟริกา นอกจากนี้ยังกระจายไปในยุโรป อเมริกา และประเทศในแถบแปซิฟิกใต้

ปัจจัยที่ทำให้ข้าวไทยมีศักยภาพในการส่งออกไปเจาะตลาดต่างๆทั่วโลก คือชื่อเสียงของประเทศไทยในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกประกอบกับข้าวหอมมะลิไทยมีคุณภาพด้านรสชาติและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ถูกปากของผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ชาวเอเชียซึ่งบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก รวมถึงประเทศที่สามารถปลูกข้าวเองได้แต่ยังมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ อาทิ บังคลาเทศ โอมาน ไนจีเรีย นอกจากนี้ ข้าวไทยยังมีโอกาสสูงในการเจาะตลาดต่างประเทศที่แม้ประชากรส่วนใหญ่จะไม่ได้บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ข้าวไทยก็ถือเป็นสินค้า premium สำหรับผู้มีรายได้ดีหรือเป็นที่นิยมในหมู่นักการทูตหรือเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศในประเทศนั้นๆ

ปัจจุบันไทยดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำจากภาวะข้าวล้นตลาดช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว และป้องกันความเสี่ยงด้านรายได้ให้แก่ชาวนาไม่ให้ต้องขาดทุน นอกจากนั้นรัฐบาลไทยยังไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาซื้อหรือเช่าที่ดินเพื่อทำนา ทั้งในรูปแบบส่วนบุคคลหรือนิติบุคคล ในขณะที่ประเทศเวียดนามไม่มีนโยบายด้านราคา แต่มีมาตรการส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาเช่าพื้นที่ทำนาในประเทศของตน ในปัจจุบันเวียดนามได้มีความพยายามที่จะพัฒนาการผลิตและการเก็บรักษาข้าวให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น โดยมีการการจัดสรรงบประมาณจำนวนมากในการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว