ทิศทางของตลาดการส่งออกของไทย

การส่งออก ความหมายคือ การเคลื่อนย้ายสินค้า จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง การส่งออกที่ดีจะจะต้องช่วยลดต้นทุนของธุรกิจลงได้ โดยอาจจะเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแรงงาน หรือค่าบำรุงรักษารถบรรทุก และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน บริษัทขนส่งอาจตั้งเป้าหมายว่าเมื่อมีการจัดการการขนส่งที่ดีด้วยจำนวนทรัพยากรที่เท่าเดิม ประสิทธิภาพการทำงานจะสูงขึ้น
การส่งออกที่ดีจะสามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรวดเร็วกว่าคู่แข่ง ผลิตภัณฑ์ของตนก็จะออกสู่ตลาดได้เร็วและแพร่หลายมากกว่าคู่แข่งขัน สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อแลกกับบริการที่รวดเร็วขึ้น พิเศษขึ้นหรือละเอียดถูกต้องมากขึ้น หรือรายได้จากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เข้ามาใช้บริการ
การส่งออกทางอากาศเป็นรูปแบบการส่งออกที่ไปได้ไกลที่สุดและรวดเร็วที่สุด แต่มีต้นทุนต่อหน่วยแพงที่สุด จำเป็นต้องก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคจำนวนมหาศาลเพื่อรองรับรูปแบบการส่งออกทางอากาศทั้งระบบ อีกทั้งต้องอาศัยระบบขนส่งสินค้าทางถนนเพื่อให้สินค้าไปถึงลูกค้าที่ปลายทางตามพื้นที่ต่างๆ ได้

รัฐบาลเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านการส่งออก ผู้ประกอบการส่งออกทุกรายสามารถใช้งานงถนน รางรถไฟ ท่าเรือ สนามบินและท่อ ได้ค่อนข้างอิสระและเท่าเทียมกัน ดังนั้นสิ่งที่ท้าทายความสามารถอย่างมากของบริษัทการส่งออกทั้งหลาย คือ ทำอย่างไรจึงจะหาประโยชน์จากสาธารณูปโภคฟรีๆ เหล่านี้ให้ได้เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการที่จะสามารถออกแบบและคิดค้นนวัตกรรมด้านการส่งออกให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองได้หรือไม่ ในทางทฤษฎีนั้น มีการคิดค้นรูปแบบการสร้างโครงข่ายการส่งออกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งมากมาย

จากที่กล่าวมาข้างต้นรูปแบบการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมีหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น รางรถไฟ ท่าเรือ สนามบินและท่อ ไม่ได้มีเฉพาะการส่งออกทางถนนโดยรถเท่านั้น อีกทั้งรัฐบาลยังให้การสนับสนุนทางด้านนี้มากขึ้น ทำให้มีการส่งออกอย่างต่อเนื่อง และทางด้านบริษัทเอกชนเริ่มกันมาพัฒนาจึงทำให้ธุรกิจมีความพร้อมที่จะแข่งขันกับคู่แข่งต่างชาติ ซึ่งเป็นกรณีที่น่าสนใจในการศึกษาว่าธุรกิจด้านการส่งออกของไทยจะเป็นไปในรูปแบบใด