ประเทศไทยกับการเตรียมตัวเป็นผู้ส่งออก

ธุรกิจการส่งออกเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของไทยอย่างหนึ่ง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถนำเงินตราต่างประเทศ เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ธุรกิจส่งออกจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถทดแทนการขาดดุลทางการค้าและส่งผลให้ผู้ประกอบการในประเทศ มีความสนใจในการทำการค้าการส่งออกมากยิ่งขึ้น

การส่งออกในปัจจุบันได้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น โดยมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ใน การทำธุรกิจมากยิ่งขึ้นทำให้สามารถทำการค้ากับต่างประเทศด้วยความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการทำธุรกิจส่งออกเป็นการทำการค้ากับนานาประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ส่งออกจะ ศึกษาหาข้อมูลเพราะว่าเป็นธุรกิจที่กระบวนการที่มีขั้นตอน และรายละเอียดมาก ผู้ประกอบการควรจะมีความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นก่อนเพื่อให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยดี

การเตรียมตัวเป็นผู้ส่งออก
ผู้ประกอบการที่สนใจทำธุรกิจส่งออกควรสนใจศึกษาปัจจัยที่กำหนดความสำเร็จของธุรกิจส่งออกดังนี้

– การเตรียมความพร้อมด้านเงินทุนเพราะในการลงทุนทำธุรกิจจะต้องมีความพร้อมในด้านงบประมาณ
– การลงทุนและงบประมาณหมุนเวียนโดยเฉพาะในช่วงแรก
– เลือกผลิตสินค้าที่กิจการตนเองมีความชำนาญ และเน้นคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญ โดยอาจขอคำแนะปรึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้า และออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาดศึกษาแนวโน้มของตลาดรวมทั้งแนวโน้มการส่งออก ตลอดทั้งวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคในต่างประเทศ ซึ่งความต้องการสินค้าของผู้บริโภคจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
– ศึกษาคู่แข่งในตลาดต่างประเทศ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ในตลาดเพื่อสร้างความแตกต่าง และ ความโดดเด่น ของสินค้าและกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าชนิดเดียวกันที่มีผู้ขายหลายรายในตลาดนั้น
– ศึกษากฎระเบียบการส่งออกสินค้าของไทย การนำเข้าของต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อขจัดความยุ่งยากในการทำธุรกิจส่งออกเช่น อัตราภาษีส่งออกนำเข้า การจำกัดโควตาสินค้าส่งออกนำเข้า ใบอนุญาตการนำเข้าสินค้าบางประเภทเช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
– ด้านบุคลากร การจัดหาพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ได้เหมาะสมกับ ตำแหน่งจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น และจำนวนของพนักงานก็ควรเพียงพอกับปริมาณงาน

ผู้ส่งออกมีความเข้าใจและรู้จักแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเช่น ปัญหาจาการผลิต การจัดจำหน่าย การขนส่ง

ทิศทางของตลาดการส่งออกของไทย

การส่งออก ความหมายคือ การเคลื่อนย้ายสินค้า จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง การส่งออกที่ดีจะจะต้องช่วยลดต้นทุนของธุรกิจลงได้ โดยอาจจะเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแรงงาน หรือค่าบำรุงรักษารถบรรทุก และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน บริษัทขนส่งอาจตั้งเป้าหมายว่าเมื่อมีการจัดการการขนส่งที่ดีด้วยจำนวนทรัพยากรที่เท่าเดิม ประสิทธิภาพการทำงานจะสูงขึ้น
การส่งออกที่ดีจะสามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรวดเร็วกว่าคู่แข่ง ผลิตภัณฑ์ของตนก็จะออกสู่ตลาดได้เร็วและแพร่หลายมากกว่าคู่แข่งขัน สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อแลกกับบริการที่รวดเร็วขึ้น พิเศษขึ้นหรือละเอียดถูกต้องมากขึ้น หรือรายได้จากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เข้ามาใช้บริการ
การส่งออกทางอากาศเป็นรูปแบบการส่งออกที่ไปได้ไกลที่สุดและรวดเร็วที่สุด แต่มีต้นทุนต่อหน่วยแพงที่สุด จำเป็นต้องก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคจำนวนมหาศาลเพื่อรองรับรูปแบบการส่งออกทางอากาศทั้งระบบ อีกทั้งต้องอาศัยระบบขนส่งสินค้าทางถนนเพื่อให้สินค้าไปถึงลูกค้าที่ปลายทางตามพื้นที่ต่างๆ ได้

รัฐบาลเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านการส่งออก ผู้ประกอบการส่งออกทุกรายสามารถใช้งานงถนน รางรถไฟ ท่าเรือ สนามบินและท่อ ได้ค่อนข้างอิสระและเท่าเทียมกัน ดังนั้นสิ่งที่ท้าทายความสามารถอย่างมากของบริษัทการส่งออกทั้งหลาย คือ ทำอย่างไรจึงจะหาประโยชน์จากสาธารณูปโภคฟรีๆ เหล่านี้ให้ได้เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการที่จะสามารถออกแบบและคิดค้นนวัตกรรมด้านการส่งออกให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองได้หรือไม่ ในทางทฤษฎีนั้น มีการคิดค้นรูปแบบการสร้างโครงข่ายการส่งออกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งมากมาย

จากที่กล่าวมาข้างต้นรูปแบบการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมีหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น รางรถไฟ ท่าเรือ สนามบินและท่อ ไม่ได้มีเฉพาะการส่งออกทางถนนโดยรถเท่านั้น อีกทั้งรัฐบาลยังให้การสนับสนุนทางด้านนี้มากขึ้น ทำให้มีการส่งออกอย่างต่อเนื่อง และทางด้านบริษัทเอกชนเริ่มกันมาพัฒนาจึงทำให้ธุรกิจมีความพร้อมที่จะแข่งขันกับคู่แข่งต่างชาติ ซึ่งเป็นกรณีที่น่าสนใจในการศึกษาว่าธุรกิจด้านการส่งออกของไทยจะเป็นไปในรูปแบบใด