ข้อควรรู้ก่อนทำธุรกิจการส่งออก

 

เพื่อให้ธุรกิจการส่งสินค้าออกประสบความสำเร็จและมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ขั้นตอน และกระบวนการต่างๆในการส่งออกสินค้าให้ดี เพื่อให้ธุรกิจส่งออกได้รับผลสำเร็จคุ้มค่า
สำหรับขั้นตอนการส่งออกประกอบด้วย
– การจดทะเบียนพาณิชย์
– การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และการขอมีเลขและบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี อากร
– เสนอขายและรับการสั่งซื้อ
– การเตรียมสินค้า
– ติดต่อขนส่ง
– จัดเตรียมเอกสารเพื่อการส่งออก
– ติดต่อผ่านพิธีการศุลกากร
– การส่งมอบสินค้า
– การเรียกเก็บเงินค่าสินค้า
– การขอรับสิทธิประโยชน์
ในการประกอบธุรกิจส่งออกนั้นจำเป็นต้องศึกษากฎเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกโดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับศุลกากร กฎหมายควบคุมสินค้าขาออก เพื่อให้มีความเข้าใจและสามารถกระทำได้อย่างถูกต้อง รัฐบาลจึงได้กำหนดการส่งออกสินค้าตามกลุ่มของสินค้าเป็น 3 กลุ่มคือ 1. สินค้ามาตรฐาน 2. สินค้าควบคุม หรือสินค้าที่มีมาตรการจัดระเบียบการส่งออก 3. สินค้าเสรี ฉะนั้นเมื่อผู้ซื้อในต่างประเทศได้รู้จักสินค้าและให้ความสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นราคา ปริมาณสินค้า ผู้ขายสินค้าจะต้องยื่นข้อเสนอราคาที่เหมาะสมและกำหนดเวลาในการจัดส่งหรือรายละเอียดอื่นตามที่ผู้ซื้อต้องการทราบ หากผู้ซื้อพอใจในสินค้าและราคาแล้ว จึงจะเกิดการสั่งซื้อ ด้วยการออกคำสั่งซื้อสินค้า(Purchase Order) มายังผู้ขาย เพื่อให้ผู้ขายออกเอกสาร Pro-forma Invoice ไปให้แล้วผู้ซื้อก็จะนำไปใช้ เป็นหลักฐานในการเปิด Letter of Credit (L/C) ต่อธนาคารของผู้ซื้อและเมื่อธนาคารของผู้ซื้อรับการสั่งซื้อ แล้วก็ทำการจัดส่ง Letter of Credit (L/C) มายังธนาคารในประเทศของผู้ขาย ซึ่งในขั้นตอนถัดมาคือ ผู้ขายทำการผลิตสินค้าให้พร้อมเสร็จสิ้นก่อนกำหนดส่งสินค้า ทำการตรวจสอบ กำหนดการจองระวาง ตารางการเดินเรือ หรือเที่ยวบินไว้ล่วงหน้า แล้วจึงจัดทำ บัญชีราคาสินค้า (Invoice) ขออนุญาต เมื่อเตรียมเอกสารประกอบการส่งออกครบแล้ว และถึงเวลาตามที่สัญญากับผู้ซื้อไว้ สินค้าพร้อมแล้วก็ทำการผ่านพิธีศุลกากร จัดทำใบขนสินค้าขาออก ใบกำกับการขนย้ายการบรรจุสินค้าเข้าตู้ขึ้นเรือหรือขึ้นพาหนะที่ใช้ขนสินค้าส่งออก เมื่อพาหนะออกจากท่าที่ส่งออกแล้ว ผู้ส่งออกรับใบตราส่ง ขั้นตอนการเรียกเก็บเงิน ผู้ส่งออกจะต้องตรวจสอบเอกสารทั้งหมดก่อนนำไปยื่นขอขึ้นรับเงินกับธนาคาร โดยเอกสารที่จำเป็น คือ ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) เป็นตราสารที่ผู้รับประโยชน์ตาม L/C หรือผู้ขายสินค้าซึ่งเป็นผู้ออกตั๋วเงินเพื่อสั่งให้ผู้ซื้อสินค้าจ่ายเงินตามตั๋วแลกเงินภายในเวลาที่ตกลงไว้