ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาท มีส่วนช่วยในการผลักดันสังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ให้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการทำธุรกิจที่ทลายเส้นพรมแดนทั่วโลกอย่างสิ้นเชิงอย่างกระแสยุคโลกาภิวัตน์หรือ Globalization ที่ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไม่ไร้ขีดจำกัด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การค้าระหว่างประเทศมีความสะดวกสบายขึ้น
การขนส่งระบบ Logistic เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในช่วงที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูง และจะมีความสำคัญมากขึ้นอีกในอนาคต เพราะว่าการขนส่งสามารถตอบสนองความต้องการของคู่ค้าได้เป็นอย่างดีในเรื่องการขนส่งทางระบบที่ได้มาตรฐาน โดยระบบการขนส่ง Logistic เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรศึกษา และนำมาปรับใช้กับธุรกิจ
ระบบ Logistic ไม่เพียงแต่เป็นการขนส่งจากต้นทางไปยังปลายทางเท่านั้น ระบบ Logistic มีความหมายมากกว่านั้น ซึ่งรวมไปถึงการจัดการระบบ การขนส่ง การบริหารวัสดุคงคลัง การจัดการวัตถุดิบ การบรรจุหีบห่อ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดแต่ใช้ค่าใช้จ่ายต่ำ
ระบบ Logistic สามารถทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะจะช่วยในการกระจายสินค้า เรื่องของการขนย้าย การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในสายงานและการผลิต การบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีระเบียบแบบแผน เพราะ Logistic นอกจากจะจัดระเบียบธุรกิจแล้วยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้ด้วย
ด้วยธุรกิจที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีการช่วงชิงฐานลูกค้าระหว่างกันที่สูงมาก จึงทำให้ธุรกิจที่นำระบบ Logistic เข้ามาใช้เป็นธุรกิจที่มีความได้เปรียบกว่าธุรกิจทั่วไป เพราะระบบ Logistic ถูกออกแบบมาให้เข้าถึงลูกค้าได้ไวขึ้นในทั่วโลกไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องการขนส่งเท่านั้น อีกทั้งยังขยายวงกว้างไม่ได้จำกัดพื้นที่เพียงแห่งเดียว
ระบบ Logistic สามารถแบ่งเบาภาระต้นทุนได้มาก เพราะระบบจะเข้ามาดูและการเคลื่อนย้ายสินค้ารวมถึงดูแลคลังสินค้าของผู้ประกอบการด้วย โดยเป้าหมายคือลดต้นทุนให้ได้มากที่สุดแต่ประสิทธิภาพต่างๆยังคงอยู่ ระบบ Logistic ช่วยให้ขนส่งในแต่ละเที่ยวได้มากขึ้น แต่กลับทำให้กำไรสูงตามไปด้วย
การขนส่งด้วยระบบ Logistic เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรศึกษา และให้ความสนใจ เพื่อนำมาปรับใช้ในธุรกิจของตน ซึ่งผู้ประกอบการที่ขาดในส่วนนี้ จะทำให้ต้นทุนเสียไปกับค่าขนส่งเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นด้าน Logistic จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม